logo

โครงการประเมินขอบเขตการปนเปื้อน และแนวทางฟื้นฟูสารอันตรายในแหล่งน้ำบาดาล
บริเวณ ตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบุรี และตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี

|


ลักษณะทางอุทกธรณีวิทยา


พื้นที่ศึกษาประกอบด้วยชั้นหินให้น้ำชนิดหินแข็ง 2 ประเภท ตามลักษณะทางธรณีวิทยา ได้แก่ ประเภทหินตะกอนกึ่งแปรอายุเพอร์เมียน-คาร์บอนิเฟอรัส (PCms) ประกอบด้วย หินมวลเม็ด ประเภทหินโคลน หินดินดาน หินทราย และหินควอร์ตไซต์สีเทาเข้ม ถึงเทาแกมเขียว และสีน้ำตาล


หินทรายแป้งกึ่งแปรสภาพ

น้ำบาดาลสะสมอยู่ในรอยแตกรอยเลื่อน และรอยต่อระหว่างชั้นหิน มีความลึกชั้นน้ำบาดาลอยู่ในช่วง ลึก 20 เมตรลงไป ส่วนบริเวณตำบลน้ำพุ มีการใช้น้ำบาดาลจากชั้นน้ำที่เป็นหินคาร์บอเนตอายุเพอร์เมียน (Pc) โดยน้ำบาดาลจะสะสมอยู่ในโพรงรอยต่อระหว่างชั้นหิน และรอยแตกระหว่างหินปูนกับหินดินดาน และบางแห่งอยู่ในรอยเลื่อนของหิน ในบริเวณพื้นที่ราบทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของพื้นที่โดยส่วนใหญ่ มีการใช้น้ำบาดาลในระดับตื้น ซึ่งมีความลึกของชั้นน้ำโดยเฉลี่ยประมาณ 5-60 เมตร ปริมาณน้ำบาดาลที่พัฒนาได้ อยู่ระหว่าง 10-100 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง


หินทรายแป้งกึ่งแปรสภาพ

จากการสำรวจสภาพอุทกธรณีวิทยาและการใช้น้ำพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำจากสระขุด และบ่อวง (บ่อน้ำใต้ดินระดับตื้น) ความลึกประมาณ 5-12 เมตร โดยเป็นน้ำบาดาลที่สะสมในหินร่วน ที่เกิดจากเศษหินปูนผุปนลูกรัง ส่วนน้ำบาดาลระดับลึกพัฒนาน้ำจากรอยแตกในหินปูน ความลึกที่เจาะ อยู่ตั้งแต่ 25-80 เมตร


Shallow groundwater well

Pumping well